รูเล็ตอเมริกัน VS รูเล็ตยุโรป: ความแตกต่างที่คุณควรรู้ก่อนหมุนวงล้อ โดย Wink777Plus
เกมรูเล็ตเป็นหนึ่งในเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรปและอเมริกา แม้ว่ารูเล็ตทั้งสองแบบจะมีพื้นฐานการเล่นที่คล้ายคลึงกัน แต่ยังมีความแตกต่างสำคัญที่ผู้เล่นควรรู้ก่อนที่จะหมุนวงล้อ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกเล่นเกมที่เหมาะสมและเพิ่มโอกาสในการชนะ นี่คือการเปรียบเทียบระหว่างรูเล็ตอเมริกันและรูเล็ตยุโรปที่ Wink777Plus นำมาเสนอให้คุณ
ความแตกต่างหลักระหว่างรูเล็ตอเมริกันและรูเล็ตยุโรป
- จำนวนช่องบนวงล้อ
- รูเล็ตยุโรป: มีทั้งหมด 37 ช่อง ประกอบด้วยตัวเลข 1-36 และเลข 0
- รูเล็ตอเมริกัน: มีทั้งหมด 38 ช่อง ประกอบด้วยตัวเลข 1-36, เลข 0 และเลข 00
- ความได้เปรียบของเจ้ามือ (House Edge)
- รูเล็ตยุโรป: ความได้เปรียบของเจ้ามืออยู่ที่ประมาณ 2.7% เนื่องจากมีเลข 0 เพียงตัวเดียว
- รูเล็ตอเมริกัน: ความได้เปรียบของเจ้ามือสูงกว่าที่ประมาณ 5.26% เนื่องจากมีทั้งเลข 0 และ 00
- รูปแบบการวางเดิมพัน
- รูเล็ตยุโรป: มีการวางเดิมพันที่เรียกว่า “En Prison” และ “La Partage” ที่ช่วยลดการสูญเสียเงินเมื่อบอลตกลงที่เลข 0
- รูเล็ตอเมริกัน: ไม่มีการวางเดิมพันแบบ “En Prison” และ “La Partage” ทำให้ความเสี่ยงในการเสียเงินสูงกว่า
- ตำแหน่งของเลขบนวงล้อ
- รูเล็ตยุโรป: ตำแหน่งของตัวเลขบนวงล้อถูกจัดเรียงอย่างมีระบบเพื่อให้เกิดความสมดุล
- รูเล็ตอเมริกัน: ตำแหน่งของตัวเลขบนวงล้อมีความแตกต่างเล็กน้อย และมีการแยกเลข 0 และ 00 ออกจากกัน
ข้อดีและข้อเสียของรูเล็ตยุโรป
ข้อดี:
- ความได้เปรียบของเจ้ามือต่ำกว่า ทำให้มีโอกาสชนะมากขึ้น
- มีรูปแบบการวางเดิมพันที่ช่วยลดการสูญเสียเงิน
ข้อเสีย:
- บางครั้งอาจหายากในคาสิโนออนไลน์หรือคาสิโนบางแห่งในอเมริกา
ข้อดีและข้อเสียของรูเล็ตอเมริกัน
ข้อดี:
- สามารถพบได้ง่ายในคาสิโนทั้งในอเมริกาและบางส่วนของโลก
- มีการเดิมพันหลากหลายรูปแบบที่สามารถเพิ่มความสนุกสนานในการเล่น
ข้อเสีย:
- ความได้เปรียบของเจ้ามือสูงกว่า ทำให้มีโอกาสสูญเสียเงินมากขึ้น